“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่มเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่เหลือผู้เล่น 10 คน เละเทะ 5-1 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนการแข่งขัน เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ยังคงไม่มี เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญที่มีอาการป่วยทำให้ต้องส่ง ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ อ็อกเหลด-แชมเบอร์เลน, อเล็กซิส ซานเชซ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงเป็นแนวรุก
ส่วนทางฝั่ง บาเยิร์น มิวนิค ที่เกิดแรกจัดการเปิดบ้านยำมาก่อน 5-1 เกมนี้ส่งผู้เล่นตัวหลักลงครบ ขาดแค่ ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่บาดเจ็บเท่านั้น
เริ่มเกม อาร์เซน่อล เจ้าถิ่นเปิดเกมรุกเข้าใส่ จนมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 20 จาก ธีโอ วัลค็อตต์
หลังจากนั้นรูปเกมยังเป็นเจ้าบ้านที่พยายามมองหาประตูที่สอง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้จบครึ่ง อาร์เซน่อล นำ บาเยิร์น มิวนิค 1-0
ครึ่งหลัง บาเยิร์นฯ แก้เกมมาดี และจุดเปลื่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 55 เมื่อ โลร็องต์ กอสเซี่ยลนี่ มาทำเสียจุดโทษพร้อมโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ไล่ตามตีเสมอเป็น 1-1
จากนั้นโมเมนตั้มของเกมก็เปลื่ยนไป และเป็นทาง บาเยิร์น มิวนิค ที่มาได้อีก 4 ประตูรวดจาก อาร์เยน ร็อบเบน, ดั๊กลาส คอสต้า และ อาร์ตูโร่ วิดัล ที่ทำคนเดียวสองประตูในเกมนี้
ทำให้จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่มอาร์เซน่อล 5-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ด้วยสกอร์รวม 10-2 ทำให้ อาร์เซน่อล ตกรอบ 16 ทีมในรายการนี้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน
ส่วนอีกคู่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด บุกถล่ม นาโปลี 3-1 โดย นาโปลี นั้นนำก่อนจาก ดรีส เมอร์เท่น ก่อนที่ทีมเยือนจะมาได้สามลูกรวด จาก เซร์คิโอ้ รามอส, ดรีส เมอร์เท่นส์ ทำเข้าประตูตัวเอง ส่วนอีกลูกจาก อัลวาโร่ โมราต้า
ส่งผลให้พวกเขาเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เช่นกัน ด้วยสกอร์รวม 6-2
Comment