โดยในเกมนี้เจ้าถิ่นที่แพ้มา 2 เกมรวดจัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม นำโดยแนวรุกอย่าง ดูซาน ทาดิช, นาธาน เรดมอนด์, เชน ลอง และ มาโนโล่ กับเบียดินี่ ส่วน นิวคาสเซิ่ล ของราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจพัก มิเกล เมริโน่ ที่เพิ่งได้รับการเซ็นสัญญาแบบถาวรเป็นสำรอง
เริ่มเกมครึ่งแรกทั้งสองทีม มีโอกาสบุกเข้าใส่กันพอสมควร ได้ลุ้นพอๆกัน จนนาทีที่ 20 เป็น นิวคาสเซิ่ล ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คริสเตียน อัตซู ซัดไปติดบล็อกบอลมาเข้าทาง ไอแซ็ค เฮย์เด้น ที่วิ่งมากดตุมเดียวเข้าไปไม่เหลือ
จากนั้นรูปเกม เป็น เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่หวังที่จะทวงประตูคืนเกือบได้จากจังหวะเตะมุม แต่ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ก็โหม่งออกหลังไป ทำให้จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1-1 มาโนโล่ กับเบียดินี่ พาบอลหนีแนวรับก่อนจะซัดหักข้อเบียดเสาเข้าไป
แต่ทว่าดีใจได้แปบเดียวนาทีที่ 51 นิวคาสเซิ่ล ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 แมตต์ ริทชี่ แทงทะลุช่องให้กับ อโยเซ่ เปเรซ หลุดเข้าไปยิงจังหวะแรกติดเซฟ ก่อนจะซ้ำดาบสองเข้าไปไม่พลาด
นาทีที่ 75 เซาธ์แฮมป์ตัน ตายยากไล่ตามตีเสมอเป็น 2-2 ฟลอริยง เลอเณิน ไปทำฟาวล์ เชน ลอง ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น มาโนโล่ กับเบียดินี่ คนเดิมที่สังหารเข้าไป เป็นประตูที่สองของเขาในเกมนี้
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทำให้จบเกม เซาธ์แฮมป์ตัน เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปแบบสุดมันส์ 2-2
ส่วนผลอีกคู่ ไบร์ทตัน เปิดบ้านเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดยทีมเยือนได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจุดโทษของ เวย์น รูนีย์
Comment