วงการลูกหนังไทย เกิดเหตุการณ์ฉาวขึ้นอีกครั้ง โดยคราวนี้ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานการเชื่อมโยงคดีล็อคผลบอล โตโยต้า ไทยลีก ซึ่งมี 12 บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวถึงการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า “การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 12 คน นั้น ถือเป็นการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เรามีข้อมูลการจับกุมผู้ต้องหา หากหลักฐานไม่เพียงพอ เราก็ไม่สามารถให้ศาลออกหมายจับได้ เมื่อศาลพิจารณาแล้วพบว่าพยานหลักฐานมีอยู่นั้นเพียงพอต่อการออกหมายจับจึงได้มีอนุมัติออกหมายจับ ส่วนกระบวนการสืบสวนต่างๆ ผมขอไม่พูดตรงนี้ อย่างที่ท่าน ผบ.ตร. บอก เพราะอาจทำให้ผู้ต้องหานำไปสู้คดีได้ แต่ผมยืนยันว่าข้อมูลหลักฐานที่ตำรวจมี ผู้ต้องหาไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้แน่นอน เพราะมันบ่งบอกชัดเจนของการทำงานของขบวนการเหล่านี้”
นายกสมาคมฯ ยังกล่าวอีกว่านี่ไม่ได้ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของตนแต่อย่างใด โดยบอกว่า “ผมถือว่าการงานนี่ถือเป็นหน้าที่ของผมมากว่า เพราะตั้งแต่ผมเข้ามาทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีคนมาฟ้องว่ามันมีการล็อคผลบอลหรือมีการว่าจ้างให้มีการล้มบอลเกิดขึ้น เพื่อเป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจในวงการฟุตบอลในอดีต โดยมีการข่มขู่, ขอร้อง หรือเสนอแนะผลประโยชน์ให้ ผมต้องพิสูจน์ว่าเรื่องราวเหล่านี้ เพื่อนำมาตีแผ่และพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น และทำให้วงการฟุตบอลดีขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดมันเป็นหน้าที่โดยตรงของผม”
“ส่วนผู้ต้องหาที่มีการประกันตัวไปนั้น เนื่องจากว่ามันมีหลักการพิจารณาเห็นว่าผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีคดีหรือข่มขู่ รวมทั้งสร้างปัญหากับพยานหลักฐานหรือพยานบุคคลได้ ซึ่งผู้ต้องหาต้องมารายงานตัวและมาให้ปากคำตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนจะไม่สามารถมาทำหน้าที่ในวงการฟุตบอลได้อีก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด”
“ส่วนคนที่ทำแบบนี้ผมคิดว่า อยู่ความโลภของคน เพราะเราไม่สามารถไปกำหนดเพดานค่าเหนื่อยหรือค่าจ้างให้กับนักเตะได้ นักเตะที่เก่งระดับทีมชาติก็ต้องได้เงินค่าจ้างที่แพงอยู่แล้ว ส่วนนักเตะระดับที่รองลงมาก็ต้องได้ค่าเหนื่อยตามความเหมาะสม เนื่องจากมันเป็นเรื่องของธุรกิจ ขณะที่ผู้ตัดสินนั้นตอนผมเข้ามาทำหน้าที่ใหม่ๆ ผมได้เรียกทุกคนเข้ามาสอบถามว่าทำไมมันมีข่าวการล็อคผลบอล ซึ่งบางคนได้เผยว่าค่าจ้างที่เขาควรจะได้มีการเบิกจ่ายช้าและไม่ตรงเวลา หรือให้ไม่ครบจำนวน”
“หากเปรียบคดีนี้เหมือนมวย นี่ถือเป็นเพียงแค่การชกยกแรกเท่านั้น เราจะพยายามสืบสวนหาหลักฐาน และดำเนินการขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปให้ได้” พล.ต.อ. สมยศ กล่าวปิดท้าย
Comment