ที่สนามศุภชลาศัย ทีมชาติไทย ในฐานะเจ้าภาพ ที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่มี 3 คะแนนจาก 2 นัด ในศึก
ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก นัดสุดท้ายของกลุ่มเอช (H) โดย มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนช้างศึกชุดใหญ่เดินทางเข้ามาชมเกมเช่นเคย
ช้างศึก U-23 จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในฐานะแชมปกลุ่มเอช ทันที หากเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ โดย วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ เปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดล่าสุด 2 ตำแหน่ง โดยส่ง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงเล่นแทน เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และ ภาณุเดช ใหม่วงษ์ ส่วน อินโดนีเซีย มี อิวาน ดิมาส กองกลางชุดรองแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งล่าสุดนำทัพ
เริ่มเกมนาทีที่ 11 ไทย ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ชัยวัฒน์ บุราณ ไหลออกซ้ายให้ สุริยา สิงห์มุ้ย ที่เติมขึ้นมา ก่อนเปิดยัดเข้ากลาง แต่ผู้รักษาประตูอินโดนีเซียรับไวได้
นาทีที่ 15 ไทยได้ลุ้นต่อเนื่องแบบจะแจ้งเมื่อ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เปิดบอลออกซ้ายให้ ชัยวัฒน์ บุราณ วอลเลย์ในเขตโทษ แต่ก็ยังไปเข้ามือผู้รักษาประตูอินโดนีเซีย
จากนั้นเริ่มมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แม้ ไทย ครองเกมได้มากกว่าแต่ก็ครอนโทรลบอลค่อนข้างยาก อีกทั้งนาทีที่ 39 ชัยวัฒน์ บุราณ เจ็บทำให้ส่ง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ลงมาแทน
จบครึ่งแรก ไทย เสมอ อินโดนีเซีย 0-0
กลับสู่ครึ่งหลัง ไทย เปลี่ยนผู้เล่นคนที่ 2 ส่ง สิทธิโชค กันหนู ลงมาแทน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และนาทีที่ 49 เจ้าตัวได้โขกจากลูกเตะมุมทันที บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว
นาทีที่ 62 อินโดนีเซีย เกือบขึ้นนำ ออสวัลโด้ ฮาย ได้ยิงในเขตโทษ บอลถากเสาสองออกไปนิดเดียว จากนั้นนาทีที่ 77 ไทย เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง วรวุฒิ นามเวช ลงมาแทน พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม ไทย เสมอ อินโดนีเซีย 0-0 ทำให้มี 5 คะแนนจาก 3 นัด ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ในฐานะอันดับ 2 ดีที่สุด 6 ทีมจากทั้งหมด 10 กลุ่ม ขณะที่ อิเหนา ตกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน มาเลเซีย เข้าป้ายในฐานะแชมป์กลุ่มทันที เมื่อมี 6 แนนจาก 2 นัด
Comment