ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางทีมชาติไทย แสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวเมื่อยกเครดิตให้แข้งช้างศึกทุกคน หลังถล่ม ทีมชาติเกาหลีเหนือ 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 45
กองกลางวัย 23 ปีมีส่วนสำคัญกับชัยชนะในเกมนี้เมื่อยิง 1 ประตูและเรียก 1 จุดโทษให้ทีม อย่างไรก็ตามเจ้าตัวไม่ขอรับความดีความชอบไว้คนเดียว
“เป็นเกมที่เหนื่อยและอึดอัดครับ” ฐิติพันธ์ กล่าวต่อ “เพราะครึ่งแรกเกาหลีเหนือมาเล่นหนักกับเรา และมีโอกาสมากกว่า โชคดีที่เราได้ประตูขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังโค้ชก็วางแท็คติคได้ดีมาก บวกกับเกาหลีเหนือหมดแรงด้วย ทำให้เรายิงเพิ่มได้อีก 2 ประตู”
“แน่นอนครับสกอร์ 3-0 มันเกิดจากการทำงาหนักของเรา แม้เราจะมีเวลาฝึกซ้อมแค่ 3-4 วัน แต่เราก็มุ่งมั่นเต็มที่ มันเป็นเหมือนโบนัสที่ตอบแทนการทำงานหนักของเราครับ”
กองกลางจากเชียรางย ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครบทั้ง 3 นัด นับตั้งแต่ มิโลวาน ราเยวัช เข้ามาคุมทีม กล่าวต่อว่า “ส่วนตัวขอบคุณโค้ชครับที่เชื่อมั่นในตัวผม ให้โอกาสตลอด 3 นัดที่มาคุมทีม โค้ชคงเห็นว่าผมมีแรงที่จะวิ่งตลอด 90 นาที ก็ขอบคุณจริงๆครับที่เชื่อมั่นมันช่วยผมได้มากครับ”
“ประตูที่ยิงได้ก็ดีใจครับ ที่ผ่านมาผมหายจากทีมชาติไปนาน กลับมาช่วงนี้พอยิงได้ก็ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นด้วย ก็จะทำงานหนักไปเรื่อยๆครับ ถ้ามีโอกาสอีกก็จะทำให้เต็มที่ครับ”
“ขอบคุณแฟนบอลครับที่ชื่นชม แต่ต้องยกเครดิตให้เพื่อนร่วมทีมด้วยครับ ทุกคนทำงานหนักร่วมกัน ถ้าไม่มีเพื่อนร่วมทีมคอยสนับสนุน ผลงานคงไม่ออกมาดีแบบนี้ครับ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน และแฟนบอลครับที่ให้กำลังใจกันตลอด”
“หลังจากนี้เราจะทำงานหนักกันต่อ เรามีเป้าหมายเดียวกันคือการเป็นแชมป์และหวังว่าเราจะทำสำเร็จเพื่อแฟนบอลชาวไทยทุกคนครับ” ฐิติพันธ์ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเบลารุส ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 วันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ไทยรัฐ ทีวี ถ่ายทอดสด
Comment