โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม “ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงแซะคู่ปรับสำคัญ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าทีมตนยังใช้เงินเสริมทัพไม่พอเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายนี้ แม้จะจ่ายไปแล้วถึง 300 ล้านปอนด์ หรือราว 13,500 นับตั้งแต่ตนเข้ามารับงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2016 ก็ตาม
แมนฯยูไนเต็ดเพิ่งลงเตะเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม โดยแม้จะเล่นในบ้านตัวเอง แต่กลับทำได้แค่เสมอ “เดอะ คลาเร็ตส์”เบิร์นลีย์ 2-2
แมตช์นี้ทีมเยือนนำก่อนจาก แอชลีย์ บาร์นส์ นาที 3 และสตีเวน เดฟูร์ นาที 36 แต่เจ้าถิ่นมาไล่ตีเสมอได้จาก เจสซี ลินการ์ด เหมาคนเดียวนาที 53 และ 90
ทำให้แมนฯยูไนเต็ดไม่ชนะมา 3 นัดติดรวมทุกรายการ เก็บเพิ่มเป็น 43 แต้มจาก 20 นัด รั้งรองจ่าฝูงเช่นเดิม แต่โอกาสไล่จี้จ่าฝูงแมนฯซิตี้ลดลงไปอีก เนื่องจากแต้มห่างถึง 12 คะแนน แถมยังเตะมากกว่า 1 นัด ส่วนเบิร์นลีย์มี 33 แต้มจาก 20 นัด อยู่อันดับ 7 ตามเดิม
มูรินโญกล่าวว่า “เรายังอยู่ในปีที่ 2 ของการสร้างทีมขึ้นใหม่ ขณะที่แมนฯซิตี้ซื้อนักเตะตำแหน่งแบ๊กด้วยราคาระดับเดียวกับกองหน้า ที่เราจ่ายไปนั้นยังไม่พอ ราคาของทีมใหญ่ย่อมผิดกับราคาของทีมอื่นๆ ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรมักกลายเป็นบทลงโทษในตลาดนักเตะเสมอ”
นอกจากนี้ มูรินโญยังแขวะเบิร์นลีย์ด้วยว่าโชคดีที่บุกมาเจ๊าได้ในเกมนี้ “ทีมเราสมควรเป็นฝ่ายชนะ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาทำประตูจากฟรีคิกได้อย่างไร เพราะบอลช่างไปตกถูกที่ถูกเวลาจริงๆ จากนั้นพวกเขาก็ไปเน้นตั้งรับ แล้วมายิงหนที่ 2 แล้วเป็นประตูอีกครั้ง”
ทั้งนี้ก่อนมาคุมแมนฯยูไนเต็ด มูรินโญยังเคยทำงานกับทีมดังอย่างเบนฟิกา, ปอร์โต, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน และเรอัล มาดริด
Comment