การแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 รอบแรก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยในคู่แรกของวันนี้ เป็นทีมชาติเบลารุส ที่เอาชนะ ทีมชาติบูร์กินา ฟาโซ 3-0 ในการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกันแบบไร้สกอร์ในเวลาปกติ
หลังจบเกมการแข่งขัน อิกอร์ ครูเชนโก้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเบลารุส กล่าวว่า “เกมนี้เป็นงานหินสำหรับทีมเราอยู่เหมือนกัน เพราะ บูร์กินา ฟาโซ เป็นทีมแกร่งจากแอฟริกา แต่ทีมเราก็สร้างโอกาสได้หลายครั้งตลอด 90 นาที และต้องชื่นชมผู้รักษาประตูของบูร์กินา ฟาโซ ที่ปฎิเสธประตูจากเราได้ในหลายๆครั้ง อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เราก็สามารถเอาชนะ และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไปได้”
(จากฟอร์มการเล่นของผู้รักษาประตูบูร์กินา ฟาโซ กังวลหรือเปล่าที่ต้องเข้าสู่ช่วงดวลจุดโทษ) “แน่นอนว่าผู้รักษาประตูของเขาโชว์ฟอร์มได้ดี แต่การดวงจุดโทษอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ผมไม่ได้กังวลในส่วนนี้เลย เพราะผมเชื่อมั่นในตัวนักเตะและผู้รักษาประตูของทีมเรา”
ส่วน อิดริซ่า ตราโอเล่ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของทีมชาติ บูร์กินา ฟาโซ ที่เป็นตัวแทน เปาโล ดูอาร์เต้ ในการคุมทีมชุดนี้ลุยศึกคิงส์คัพ กล่าวว่า “วันนี่เกมของทั้งสองทีมไม่ได้ห่างกันมาก และ เบลารุส ก็เล่นได้ตามเทคติกที่เขาวางกันมา ซึ่งต้องบอกเลยว่า ฟอร์มการเล่นของเราวันนี้ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น เราควรทำได้ดีกว่านี้”
“ในการดวลจุดโทษ นักเตะของเราซ้อมกันมาดีแล้ว แต่มันไม่แน่นอน เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในการยิงจุดโทษในแต่ละครั้ง”
ในขณะที่ อาบูบาการ์ ซาวาโดโก้ ผู้รักษาประตูกัปตันทีม บูร์กินา ฟาโซ กล่าวว่า “เกมของเราดี แต่ไม่ดีพอเท่าที่ควรจะเป็น เราสามารถควบคุมเกมได้ และสร้างปัญหาให้กับ เบลารุส อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เราก็จบสกอร์ไม่ได้ และโชคร้ายที่แพ้ในที่สุด”
สำหรับ ทีมชาติเบลารุส จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยจะรอพบกับผู้ชนะในเกมที่สองของวันนี้ ระหว่าง ทีมชาติไทย หรือ ทีมชาติเกาหลีเหนือ ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ เวลา 19.30 น. ส่วนบูร์กินา ฟาโซ จะเข้าไปชิงที่สามในวันเดียวกัน เวลา 16.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ทั้งสองคู่
ส่วนอีกคู่ที่จะฟาดแข้งกันในวันนี้ ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี เช่นกัน
Comment