โดยเกมนี้ เจ้าบ้านไม่มี ซาดิโอ มาเน่ ที่บาดเจ็บจากการไปรับใช้ทีมชาติเซเนกัลในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ทำให้ต้องจัด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่วนทีมเยือนไม่มี พอล ป็อกบา, เอริค ไบญี่ และ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่บาดเจ็บ
เริ่มเกมครึ่งแรก เป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่บุกเข้าใส่ก่อนมีโอกาสได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมถึง 2 ครั้งติดต่อกัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก
เกมผ่านมาประมาณ 10 นาที ทุกอย่างตกเป็นของ ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่าบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นแบบชัดเจน
เกมผ่านมาในช่วงนาทีที่ 35 ลิเวอร์พูล เกือบจะขึ้นนำ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เปิดให้กับ โจเอล มาติป เข้าชาร์จ 5 หลาติดเซฟของ เด เกอา ก่อนที่บอลจะไปเข้าทางของ ซาลาห์ ที่ได้ซ้ำเน้นๆ แต่ก็ยิงออกหลังไปเอง
จากนั้น แมนฯยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้าง ลูกากู ทำชิงกับ มาคิตาร์ยาน และ มาร์ซิยัล บอลไปเข้าทาง ลูกากู หน้ากรอบเขตโทษได้กดเหน่งๆ แต่ไปติดเซฟของ มิโญเล่ต์ ที่ปัดออกไปได้ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลังรูปเกมยังคงเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่าพยายามเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูขึ้นนำให้ได้ นาทีที่ 56 เกือบจะขึ้นนำจากจังหวะที่ โจ โกเมซ เปิดให้กับ เอ็มเร่ ชาน ที่วิ่งสอดเข้ามาดีดข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตัดสินใจส่งแนวรุกอย่าง อเล็กซ์ อ๊อกเหลด-แชมเบอร์เลน และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงไป
สุดท้ายไม่สามารถทำอะไรกันได้ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 แบ่งกันไปทีมล่ะ 1 แต้ม
Comment