เว็บไซต์เอเอฟซี ยกย่อง “เจ้าตอง”กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านของ “กิเลนผยอง”ให้เป็น “King Kawin” หลังจากช่วยทีม
เก็บคลีนชีตในการชนะ บริสเบน รอว์ 3-0 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
เว็บไซต์ทางการของ เอเอฟซี หรือ the-afc ได้ออกมาสรุปศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 นัด 5 ที่ผ่านมา โดยยกย่อง กวินทร์
ธรรมสัจจานันท์ “เจ้าตอง” นายทวารของ เอสซีจี เมืองทองฯ ที่มีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะ บริสเบน รอว์ ในบ้านตัวเอง 3-0 ด้วย
โดยทางเว็บไซต์ของ เอเอฟซี ได้ใช้คำว่า “King Kawin” หรือ “ราชากวินทร์” ตั้งเป็นฉายาใหม่ จากผลงานที่เจ้าตัวเก็บคลีนชีตนัดที่
4 จาก 5 แมตช์ ทำให้เวลานี้ เอสซีจี เมืองทองฯ กลายเป็นทีมเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม ที่เสียประตูน้อยที่สุดแค่ 1 ลูก
นอกจากนี้ เอเอฟซี ยังวิคราะห์เพิ่มเติมว่าการที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เก็บคลีนชีตได้จากนัดที่ เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านชนะ
บริสเบน รอว์ ทำให้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรนั้น เป็นเรื่องที่ยากมากที่ทีมของไทยลีกจะเข้าไปถึง
รอบดังกล่าวของทวีปเอเชีย
สำหรับการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ของ เอสซีจี เมืองทองฯ ในเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 เป็นการเข้ารอบดังกล่าวใน
ช่วง 8 ปี จาก 6 ครั้งที่ขุนพล “กิเลนผยอง” ก้าวเข้ามาเล่นในถ้วยใบใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย เพราะผลงานก่อนหน้านี้ของแชมป์
โตโยต้า ไทยลีก 2016 ประกอบด้วย
ปี 2010 เริ่มต้นได้ดีในเกมแรกเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อบุกไปชนะ ดานัง ( เวียดนาม ) กลับมาได้ 3-0 แต่นัดสองไป
เยือน สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ แพ้ ดวลจุดโทษ กลับมา 3-4 ( เสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ) หล่นมาเล่นถ้วยเล็ก อย่าง เอเอฟซี คัพ 2010
จากนั้นซีซั่น 2011 ทีมจากไทยได้โควตา 2 ทีมคือ 1 เพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และ 1 ทีมรอบแบ่งกลุ่ม ในถ้วยเอเอฟซีคัพ
“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้เล่นบอลถ้วยเอเชียเป็นหนที่ 2 ในฐานะแชมป์ไทยลีกครั้งที่ 14
กลายเป็นอีกหนที่ขุนพล “กิเลนผยอง” ต้องมาฝันสลาย อดเล่นเอเอฟซี แชเปี้ยนส์ลีก 2011 รอบแบ่งกลุ่ม แพ้ในการเพลย์ออฟ
หลังบุกไปแพ้ ดวลจุดโทษ ศรีวิจาย่า ( อินโดฯ ) 8-9 ( เสมอในเวลา 120 นาที 2-2 ) หล่นมาเล่น เอเอฟซี คัพ 2011 แทน แต่ก็เข้า
ถึงแค่รอบ 8 ทีม
มาถึงฤดูกาล 2013 เอสซีจี เมืองทองฯ ประเดิมบอลถ้วยใหญ่เอเชียหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ไม่สวย
เท่าไหร่เมื่อไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยจากการลงเตะ 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม เอฟ โดยเก็บได้แค่ 1 แต้มเท่านั้น จบด้วยอันดับบ๊วย
ของกลุ่มไปด้วยผลงานดังนี้
นัดแรก 26 กพ. 56 เสมอ ชนบุ๊ค ฮุนได มอเตอร์ ( เกาหลีใต้) 2-2 ( ห ) , นัดสอง 12 มีค. 56 แพ้ อุราวะ เรดไดมอนด์ ( ญี่ปุ่น ) 1-4
( ย ) , นัดสาม 3 เมย. 56 แพ้ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ( จีน ) 0-4 ( ย ) , นัดสี่ 9 เมย. 56 แพ้ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ 1-4
( ห ) , นัดห้า 24 เมย. 56 แพ้ ชนบุ๊ค ฮุนได มอเตอร์ ( เกาหลีใต้ ) 0-2 ( ย ) , นัดหก แพ้ อุราวะ เรดไดมอนด์ ( ญี่ปุ่น ) 0-1 ( ห )
ต่อกันที่ฤดูกาล 2014 สโมสรจากไทยได้โควตา 1 บวก 2 ทีม ซึ่ง เอสซีจี เมืองทองฯ รองแชมป์ไทยลีก ได้เล่นรอบเพลย์ออฟ ของ
เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก ทว่าไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ เนื่องจากรอบแรก ชนะ ฮานอย ทีแอนด์ที (เวียดนาม ) 2-0
( ห ) เมื่อ 8 กพ. 57 ส่วนรอบสอง บุกแพ้ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ( ออสเตรเลีย ) 1-2 ( ย ) เมื่อ 15 กพ. 57
ล่าสุดในซีซั่น 2016 เอสซีจี เมืองทองฯ ยังเล่นในรอบเพลย์ออฟ ของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นเดิม เนื่องจากพวกเขาคว้าสิทธิ์
จากการเป็นรองแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2015 ประเดิม รอบสอง วันที่ 2 ก.พ.2016 ชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม (มาเลเซีย) 3-0
(ห, จุดโทษหลังเสมอ 120 นาที 0-0), รอบสาม วันที่ 9 ก.พ.2016 แพ้ เซียงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) 0-3 (ย) เท่ากับว่าเป็นการปิดฉากที่
สมบูรณ์แบบในการรอคอย 8 ปีเต็มการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายถ้วยเอเชียของ “กิเลนผยอง”
Comment