เกมนี้ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมจะได้ สุริยา สิงห์มุ้ย แบ็กซ้ายตัวจริงคัมแบ็คกลับมาลงสนามอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ทีมมีความสมดุลในเกมรุกและรับทางริมเส้นกราบซ้ายมากขึ้น ส่วนในแดนหน้าคาดว่า เจนรบ สำเภาดี กองหน้าตัวหลักของทีมจะกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงในการพบกับ มาเลเซีย โดยทีมจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามนำทัพ นนท์ ม่วงงาม เฝ้าเสาประตู แนวรับวาง รัตนกร ใหม่คามิ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, พีฬาวัช อรรคธรรม และ สุริยา สิงห์มุ้ย
แดนกลาง เชาว์วัฒน์ วีระชาติ จะคุมจังหวะเกมร่วมกับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ปล่อยให้ มนตรี พรหมสวัสดิ์, ชัยวัฒน์ บุราญ, ภานุเดช ใหม่วงค์ ร่ายเกมรุก พร้อมวาง เจนรบ สำเภาดี เป็นกองหน้าตัวเป้าล่าสกอร์ให้ทีม
“เจ้าเจน” เจนรบ สำเภาดี กองหน้ากัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตนมีความพร้อมเต็มที่สำหรับนัดนี้ และหวังจะคว้าชัยชนะมาครองให้ได้” ด้าน “เจ้าเทค” สุริยา สิงห์มุ้ย แบ็กซ้ายตัวเก่งของทีม ก็เผยเป้าหมายในเกมนัดนี้ว่า “ด้วยสภาพร่างกายของตนที่กลับมาพร้อมอีกครั้ง เกมนี้ตนมีความกระหายและมุ่งมั่นที่จะพาทีมชาติไทยคว้าชัยชนะให้ได้ โดยขอเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยเข้ามาให้กำลังใจทีมกันเยอะๆ นักเตะทุกคนพร้อมจะทุ่มเทเต็มที่ เพื่อพาทีมคว้าชัยชนะมาให้ได้ครับ”
ด้าน อ่อง คิม สวี กุนซือใหญ่ของ มาเลเซีย นำทีมชนะ อินโดนีเซีย 3-0 ในเกมนัดแรก ไม่มีปัญหาในการจัดทัพผู้เล่นโดยดาวเตะตัวเก่งอย่าง ทานาบาลาน นาดาราจาห์, ซยาฟิก อาเหม็ด และ มูฮัมหมัด จาฟรี่ 3 ตัวรุกสุดอันตรายของทีมจะนำทัพลงบู๊เพื่อพาทีมลุ้นคว้าชัยชนะนัดที่สอง
โดยการแข่งขันนัดนี้ จะถ่ายทอดทางช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 19.00 น.ให้แฟนบอลได้รับชม ส่วนเกมคู่แรก ระหว่าง อินโดนีเซีย พบ มองโกเลีย ถ่ายทอดสดทางยูทูปชาแนลไทยรัฐทีวี เวลา 16.00 น.
ส่วนแฟนบอลสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันผ่านทาง ไทยทิกเกตเมเจอร์ และที่หน้าสนามแข่งขัน ในราคา 50 บาท,150 บาท และ 200 บาท
Comment